Q-Con Home ฉีดวัคซีนต้านไข้หวัดใหญ่ 2020

ผู้บริหาร Q-Con Home เล็งเห็นถึงความสำคัญของสุขภาพพนักงานจึงได้จัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ ให้พนักงานทุกคน รวมไปถึงน้องๆนักศึกษาฝึกงานอีกด้วย ถือเป็นอีกความห่วงใย และสวัสดิการดีๆจากบริษัทของเราค่ะ

สำหรับไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ อาการเบื้องต้นจะคล้ายเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่จะค่อย ๆ ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เช่น มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามร่างกายมากกว่าปกติ หากปล่อยเอาไว้นานจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ และอาจร้ายแรงถึงขั้นหัวใจวายได้เลยนะคะ ดังนั้นการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถลดความรุนแรงได้ประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์

วันนี้ Q-Con Home ขอนำสาระความรู้เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนมาฝากด้วยนะคะ

จากสภาวะอากาศที่แปรปรวนในปัจจุบัน ส่งผลให้เราพบเจอการระบาดของไข้หวัดใหญ่กันบ่อยขึ้น ซึ่งไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส Influenza ที่กระจัดกระจายอยู่ในอากาศ ไข้หวัดใหญ่มักจะมีการระบาดรุนแรงช่วงฤดูฝน และฤดูหนาว เมื่อใดที่ภูมิคุ้มกันของเราอ่อนแอลงและได้รับเชื้อเข้าไปก็จะส่งผลให้เราป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ ซึ่งวิธีการป้องจากการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เอาไว้ก่อน วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นวัคซีนที่ผลิตจากเชื้อที่ตายแล้ว มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรค ซึ่งผู้ที่ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วอาจยังเป็นไข้หวัดใหญ่ได้อีกแต่อาการจะทุเลาลง

ไข้หวัดใหญ่จะมีอาการรุนแรงกว่าไข้หวัดปกติ ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่จะมีความเสี่ยงต่ออาการโรคประจำตัวกำเริบและภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะปอดบวม หลอดลมอักเสบ ผลกระทบรุนแรงต่อระบบหัวใจ หลอดเลือด และระบบประสาท จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุด คือ การฉีดวัคซีนเพิ่มภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ให้แก่ร่างกาย องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แนะนำให้เพิ่มไวรัสสายพันธุ์ B เข้าในวัคซีนอีกหนึ่งสายพันธุ์ เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับไวรัสทั้ง 4 สายพันธุ์ที่ทำให้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่มีดังนี้ค่ะ
1. สายพันธุ์ A H1N1
2. สายพันธุ์ A H3N2
3. สายพันธุ์ B ตระกูล Victoria
4. สายพันธุ์ B ตระกูล Yamagata

ทำไมต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี ?

เพราะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อยู่เรื่อยๆ ในการผลิตวัคซีนแต่ละปี จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ตามเชื้อไวรัสด้วยเช่นกัน เพื่อให้ครอบคลุมเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุ และหลังจากฉีดวัคซีนไปแล้ว 2 สัปดาห์ ร่างกายจึงจะมีการสร้างภูมิคุ้มกันโรค และไม่ว่าภูมิคุ้มกันของร่างกายจะมาจากการฉีดวัคซีนหรือจากการเจ็บป่วยจากเชื้อธรรมชาตินั้นคงอยู่ไม่ นานและมักจะลดต่ำลงได้ การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปีจึง เป็นการกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันต่อไข้หวัดใหญ่มีระดับที่สูงอยู่ตลอดเวลา สำหรับรับมือกับเชื้อที่จะเข้ามาสู่ร่างกายของเรา

ฉีดแล้วจะไม่เป็นไข้หวัดใหญ่ใช่หรือไม่ ?

วัคซีน ช่วยป้องกันโรคและลดความรุนแรงของโรค แต่ฉีดแล้วยังสามารถเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ อาจเป็นเพราะการป้องกันโรคขึ้นอยู่กับความสามารถในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันแต่ละบุคคล และขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่ระบาดตรงกับสายพันธุ์ในวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกประกาศหรือไม่ การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ช่วยลดความรุนแรงของโรคอย่างมาก หากไม่ฉีดเพื่อให้มีภูมิคุ้มกันเลยอาจก่อให้เกิดอาการที่รุนแรงกว่าได้ค่ะ